เวลาผ่านไป กรองแก้วนุ่งกระโจมอกถือผ้าสำหรับผลัดและมีผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเดินโหย่งปลายเท้าลงมาที่ท่าน้ำสงบเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่แล้ว กรองแก้วมองจนแน่ใจว่าพุฒิภัทรอาบน้ำเสร็จแล้ว
กรองแก้วเดินมาที่ท่าน้ำที่มีแค่รอยเปียกบนพื้นไม้แต่ทุกอย่างดูปลอดคน น้ำนิ่งไม่มีลักษณะกระเพื่อมไหวเพราะคนอื่น กรองแก้วมองรอบๆอีกทีก็เห็นว่าไม่มีใคร
กรองแก้วนั่งลงอย่างใจเย็น เธอวางอุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัว ผ้าผลัด ผ้าเช็ดตัว แล้ววักน้ำ ล้างมือ ล้างหน้าอย่างผ่อนคลายก่อนจะจุ่มเท้าลงน้ำเพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นก็ค่อยๆหย่อนตัวลงน้ำ
กรองแก้วมีหน้าตาสบายใจ จากนั้นก็ค่อยๆจุ่มตัวลงลึกเพื่อให้หน้าจมลงในผืนน้ำ สักพักเธอก็โผล่ขึ้นมาด้วยหน้าตาสดชื่น พอเธอลูบหน้าลืมตาแล้วก็ช็อคเมื่อเห็นพุฒิภัทรอยู่ในน้ำตรงหน้ากำลังยิ้มขำอยู่ไม่ไกล
“คุณชาย!”
พุฒิภัทร หัวเราะ “สวัสดีจ้ะ”
กรองแก้วฉุนปนขำจึงวักน้ำใส่ “บ้า! ตกใจหมดเลย นึกว่าผีหลอก ถ้าแก้วหัวใจวายไป..จะว่าไง”
“จะช่วยชีวิต” พุฒิภัทรตอบ
“คุณชายอาบน้ำนานจัง เดี๋ยวก็เป็นตะพ้านตายหรอก คนไม่เคยด้วย แช่น้ำนานๆไหนดูมือสิคะ”
พุฒิภัทรยกมือขึ้นมาให้ดู
“นั่นไง นิ้วเหี่ยวเลย เล็บก็เขียวๆแล้วด้วย ถ้าเป็นไข้มานี่ แก้วไม่รับผิดชอบนะคะ”
“ว่ายน้ำเล่น สนุกดี ว่ายข้ามไปข้ามมา”
“นี่มันไม่ใช่สระว่ายน้ำนะคะ อันตราย มืดๆแบบนี้ด้วย”
“ก็รอแก้วอยู่ แก้วไม่มาซะที รอเป็นชั่วโมงๆ คิดว่าถ้าแก้วไม่มา ก็จะรออยู่ในคลองนี้แหละ”
“พูดจาน่ากลัวไปได้ คุณชายนี่..แก้วไม่เห็นรู้เลย ว่าที่จริง คุณชายก็เหมือนเด็กซนๆ เกเรแล้วก็ขี้โกงด้วย” กรองแก้วรีบขยับจะหนีไปให้ไกล
“แก้ว” พุฒิภัทรเข้าประชิดแล้วกอดกรองแก้วไว้ “ขอร้องล่ะ”
“อุ๊ย..คุณชาย”
“อย่าหนีฉันอีกเลยนะแก้ว เท่าที่ฉันทำมาทั้งหมด แก้วยังไม่เห็นอีกเหรอ ว่าฉันรักแก้วแค่ไหน”
“เห็นสิคะ แก้วเห็น”
“เห็นแล้วก็ไม่รู้สึกรู้สม ใจร้าย ใจดำ”
“แก้วบอกเหตุผลไปหมดแล้ว”
“เป็นเหตุผลผิดๆ ใช้ไม่ได้ ดันทุรัง ทิฐิ มานะ ไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย”
“แก้วคงเถียงสู้คุณชายไม่ได้หรอก”
“ก็ไม่ต้องเถียงสิ แต่ฟัง..”
กรองแก้วอึ้ง
“ฟังนะ ชั้นรักแก้ว แก้วก็รักชั้น เราอยู่ด้วยกัน ชั้นมีความสุข แก้วมีความสุข ถูกไหม..แต่ถ้าเราแยกจากกัน แก้วก็เสียใจ ชั้นก็เสียใจ แล้วทำไมเราจะเลือกแบบนั้น”
“แล้ว คนอื่นล่ะคะ” กรองแก้วถาม
“ถ้าคนอื่นของแก้ว หมายถึงครอบครัว หม่อมย่า พี่น้องฉัน ฉันก็ขอตอบว่า ทุกคนเขารักฉัน ถ้าฉันมีความสุข ทุกคนก็ต้องดีใจ ถ้าฉันรักใคร ทุกคนก็จะรักด้วย”
“จริงเหรอคะ”
“จริง ก่อนจะมานี่ ฉันพูดกับทุกคนแล้ว ฉันบอกทุกคน ว่าฉันรักแก้ว ฉันเชื่อมั่นในตัวแก้ว ฉันบอกเขาว่า ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องแต่งงานกับแก้วให้ได้ ถึงใครจะขวาง ฉันก็ไม่ยอม”
“แล้ว ทุกคนว่ายังไงคะ”
“ทุกคนยอม หม่อมย่ายังอวยพรด้วยซ้ำ”
“แล้วเรื่องที่ แก้วเคยถูกจับตัวไป”
“แก้วรักศักดิ์ศรีแค่ไหน แก้วเป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองแค่ไหน ไม่ใช่ฉันเหรอที่เป็นคนที่รู้ดีที่สุด ฉันคือคนที่ได้เห็นกับตา มาตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบกัน ว่าคนอย่างแก้ว ถ้าถูกใครบังคับขืนใจ แก้วต้องยอมตายเท่านั้น จริงไหมล่ะ”
กรองแก้วอึ้งและพูดไม่ออกเพราะตื้นตันซึ้งใจที่มีคนเข้าใจ พุฒิภัทรมองหน้าด้วยแววตาจริงใจ กรองแก้วน้ำตาเอ่อคลอฉับพลันแล้วก็ไหลออกมา
“ร้องไห้ทำไม” พุฒิภัทรถาม
“แก้วดีใจ” กรองแก้วบอก
“ดีใจ..?”
“ดีใจ..ที่คุณชายเข้าใจแก้ว”
ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างซาบซึ้ง
พุฒิภัทรถอดสร้อยจากคอแล้วสวมคล้องคอกรองแก้วไว้
“แก้ว..เธอคือภรรยาของฉันตามกฎหมาย แล้วก็เป็นอยู่ในใจฉันเสมอ เธอต้องรับตราประจำตัวของฉัน ที่หม่อมแม่ของฉันทำให้มาตอนฉันเกิด เพื่อให้ลูกชายของท่าน มอบให้สะใภ้ของท่าน แก้ว แต่งงานกับฉันนะ อย่าปฏิเสธเลย เกิดมา ฉันไม่เคยรักผู้หญิงมาก่อน รักเธอเป็นคนแรก และจะเป็นคนเดียวตลอดไป..นะแก้ว”
กรองแก้วไม่ปฏิเสธแต่มองหน้าพุฒิภัทรเอาไว้ตลอดเวลา น้ำตาของเธอไหลด้วยความซึ้งใจ
ทั้งสองค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันอย่างอ่อนหวานแล้วกอดและจูบกันอย่างอ่อนหวาน